วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

DotA สาด!!! แห่งเทคนิคการลงทุน


DotA สาด!!! แห่งเทคนิคการลงทุน
ถ้าพูดถึงเกมส์ที่ผมค่อนข้างคุ้นเคยและอีกหลายๆคนก็รู้จักมันคือเกมส์ โดต้า เหรอ ดอทๆๆๆๆ เอไหมสาดด และหากหลายๆคนไม่รู้จักมันคือเกมส์วอร์คราฟ3 map ชื่อ dota สุดยอดเกมส์วางแผนแนววิ่งๆ ลุยๆ ป้องกัน หากใครไม่รู้จักเกมส์นี้ลองเข้าไปในร้านเกมส์ internetใกล้บ้านจะได้ยินเสียง บวกๆๆ บีๆๆ  บวก(+) หมายถึงเข้าปะทะ บี(b) หมายถึงถอย แต่ผมจะไม่ลงรายละเอียดมากนักเนื่องจากหลักๆจะพูดเรื่องการลงทุนการลงทุนในที่นี้ผมจะพูดถึงการลงทุนในหุ้น นะครับเพราะเป็นเรื่องที่ผมค่อนข้างถนัดมากกว่าการลงทุนอื่นๆ เช่น อสังหา ตราสารหนี้ ธนบัตร ฝากธนาคาร ซื้อประกัน อื่นๆ การลงทุนในหุ้นก็คือการที่เราไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจการที่เราเลือก CPF(ซีพี),PPT(ปตท), SPC (พวกมาม่า ผงซักฟอก) และอีกมากมายไปหาดูเอา หุ้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 2 รูปแบบคือ 1.เก็งกำไร หมายถึงซื้อมาถูกขายแพงเช่น ซื้อมา 10 บาทถ้าราคา ณ เวลาปัจจุบันเป็น 12 คุณก็ได้กำไร 2 บาท 2. เงินปันผล หมายถึง ผลตอบแทนที่ได้จากการประกอบกิจการนั้นๆของบริษัทเกิดผลกำไร และบริษัทแบ่งผลประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้น ดังนั้นหลักๆของหุ้นคือได้ทั้งเก็งกำไร และเงินปันผล ดังที่ได้กล่าวมาในขึ้นต้น
เกมส์ดอทเอ!!!ที่พวกเราหลายคนคุ้นเคย เริ่มเกมส์ เลือกตัวซิครับ เลือกๆ แต่ละทีมมีข้างละ 5 คน ถ้าเล่นแบบ 5 ต่อ 5 สูงสุด Hero คือตัวละครที่แต่ละคนต้องควบคุมในการเล่น ถ้าเราสังเกตดีๆ heroที่แต่ละคนเลือกหรือเล่นเก่งที่สุดในตัวนั้นๆ จะสะท้อนคุณลักษณะอะไรบางอย่างในตัวคนๆนั้น ผมขอแบ่ง Hero ใน 2  แบบใหญ่ซึ่งมีแนวการเล่นแยกกันอย่างชัดเจน แบบแรก ganker กับ support ผมขอรวมๆกันเป็นกลุ่มแรก กลุ่มนี้จะเน้นช่วงต้นเกมส์เป็นหลักทำทุกอย่างเพื่อลุยจบให้ไว เข้าไวออกไว จนมีคำพูดที่ว่า เฮียเอย คุณจะฟาร์ม(การเก็บเงินที่ได้จากการทำลายศัตรู) ทำไม คุณตัวGank นะ คุณ support นะ เสียเวลา จะแพ้เอา พวกในกลุ่มที่ 2 ตัว carry (ความหวัง) late น่าจะมาจากมาสายป่าวตกภาษาอังกฤษ คือสรุป ความหวัง คือต้นเกมส์จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถ้าทำได้ก็ยาก อาจมีเพื่อนเข้ามาช่วยสนันสนุน แต่จะไม่เน้นปะทะในช่วงแรก อาจมีบางพวกที่เป็นประเภท (semi-carry) คือ ต้นเกมส์สามารถลุยได้ และท้ายเกมส์ก็สามารถพึ่งพาได้อุ่นใจ !!!! ^-^ เออๆๆ อยากถามว่าแล้วมันเกี่ยวไรกับการเล่นหุ้นว่ะพูดซะยาว เออโทษทีกำลังจะบอก นะใจเย็นดิ
เกมส์ดอทเอเป็นเกมส์ที่ผมเล่นค่อนข้างบ่อยนะ อยากบอกว่าคนที่เล่นเกมส์ดอทเอเกือบทุกคนมีความเก่งพูดง่ายๆฉลาด นะบางคนคิดแล้วคิดอีก เล่นแต่ละทีวางแผนการอย่างวุ่นวายนี้มันไม่ใช่เกมส์นะเนี้ยผมคิดในใจ คุณจะวางแผนทำไมวุ่นวายวะแค่เกมส์ เล่นแต่ละทีเครียดมากแต่เราก็เล่นๆๆไปโดยไม่สนใจไรมากมายคิดแต่ว่าเล่นละสนุก แต่ถ้ารู้จักเอาความสนุกในเกมส์เปลี่ยนเป็นความฉลาดก็จะดีมาก มีเพื่อนผมหลายคนติดดอทเอมากเรียนไม่จบ เลิกกับแฟน เพราะไม่แบ่งเวลา สังเกตชีวิตจะค่อยๆตกต่ำ ผลการเรียนเริ่มแย่ ตังค์ในกระเป๋าเริ่มหมด ข้าวเริ่มไม่มีกิน อนาถครับ 555+ บางคนเท่านั้นนะครับไม่เหมารวม แต่จริงๆหากทุกคนเล่นเกมส์ และนำเทคนิคในเกมส์บางอย่างมาปรับใช้กับชีวิตที่จริงเกมส์มันก็มีประโยชน์นะถ้ารู้จักแบ่งเวลา และประยุกต์ เออๆๆ ยกตัวอย่างไรดี เอาง่ายๆ หมากรุกเกมส์มันสมอง หมากฮอต ไรพวกนี้ถามว่าคนไม่ฉลาดเล่นได้ไหมก็เล่นได้แต่ไม่เก่ง คนเก่งคือใคร?สมัยก่อนผมจะเดินกลับบ้านผ่านตลาด ผ่านคิวรถ ผ่านร้านกาแฟจะเห็นคนนั่งเล่นหมากรุก พอเราไปดูสุดยอดครับ เล่นกันได้เก่งมากไม่มีใครยอมใครสุดๆ เซียนๆกันทั้งนั้น ถามว่าเกมส์หมากรุก ใช่สำหรับคนเก่งเท่านั้นเหรอที่เล่นได้ขั้นเทพแบบนี้ แต่ทำไมคนฉลาดเหล่านี้ถึงมาปั่นสามล้อ ขายแรงงานไม่ไปนั่งในห้องแอร์เย็นๆ ก็งงอยู่พักใหญ่ พอจะสรุปได้ว่าคนเหล่านี้อาจเล่นเพื่อสนุกไปวันๆไม่รู้จะนำมาประยุกต์ยังไง ง่ายๆใครสามรถประยุกต์เกมส์กับชีวิตจริงได้คงเก่งไม่น้อย ไม่ต่างจากเกมส์ดอทเอ เพื่อนผมบางคนเก่งดอทเอมาก ระดับเซียนเลย แต่การเงิน ชีวิตธรรมดาๆมาก บางคนถึงกับจน เพราะวันๆเล่นแต่เกมส์ ซึ่ง 555+ บอกกันไม่ได้เรื่องนี้
การลงทุนก็เหมือนการเล่นดอทเอละครับมันถูกแบ่ง แนวการลงทุนออกเป็น 2 พวกใหญ่ๆ คล้ายๆเกมส์ดอทเอ พวกแรกเรียกว่าพวก เทคนิคคอล พวกนี้เข้าเร็วออกเร็ว หมายความว่า พวกนี้จะต้องนั่งดูกราฟ อ่านข่าววิเคราะห์อะไรอีกมากมาย พวกนี้ต้องไวคนเล่นแนวนี้ส่วนใหญ่จะเก่งนะผมยอมรับ คือซื้อวันต่อวัน บางครั้งเรียกว่าพวกเดย์เทรด คือซื้อวันต่อวัน อ่ะ เหมือนพวกสาย int gankerที่ต้องสู้ให้ไวในช่วงต้นเกมส์ สกิลทักษะ จะเยอะมากๆบางตัวกดให้ครบยังไม่พอต้องไวด้วยนะ ถ้าพลาดก็เสี่ยงจะนูบในตอนจบ หลังๆพวกนี้จะไม่เก่ง แต่ถ้าจบไวต้นเกมส์เก่งก็จะเก่ง เหมือนพวกเดย์เทรด ถ้าพลาดความสามารถไม่ถึงคุณก็อาจจะเสียเงินจนหมดตัวได้เลย ช่วงหลังผลกำไรจะน้อย ง่ายๆ เหมือนเวลาเราถามเพื่อนเวลาเล่น ดอทเอ เห้ยไหวป่าวว่ะตัว int หมายถึงการที่เราถามเพราะไม่ไว้ใจเพื่อนที่เล่นตัวที่ต้องใช้ความสามารถสูง เหมือนการเล่นหุ้นพวกที่อ่อนประสบการณ์ มือใหม่ อยากรวยภายใน 1 วัน แต่ต้องเจ็บตัวภายใน 1 วัน หรือ 1 เดือน พอเจ็บก็เข็ดเลิกหุ้น ไปทำงานอย่างอื่น  ส่วนมากในตลาดหุ้นจะมีคนแบบนี้เยอะถ้าคุณอยากชนะในตลาดหุ้นคุณจะเล่นสายไหนมาดูสายที่ 2
พวกที่ 2 พวกที่เรียกตัวเองว่า VI ย่อมากจาก Value investor คือพวกเน้นคุณค่า พวกนี้จะเน้นวิเคราะห์งบการเงิน ROE ค่า PE และ PBV เป็นส่วนใหญ่พวกนี้เน้นมองอนาคตพวกนี้ก็เหมือนพวก carry ใน dota ที่เน้นเกมส์ยาว ยาวในหุ้นนี้อาจเป็น 10 20 ปีก็ได้นานมาก 55+ แต่ก็อย่างว่า carry ความหวังซินะ พวกนี้จะใช้เวลาส่วนใหญ่วิเคราะห์บริษัทจะไม่เน้นขายมากนัก เน้นซื้อเก็บผลตอบแทนน้อยมากๆแต่ก็ไม่เสียเพราะไม่เน้นขาย เหมือนกับตัว carry บางตัวเช่น troll, TB,  PA , etc. ที่ไม่จำเป็นต้องเข้าปะทะไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นไง ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินอย่างเดียว แต่ถ้าได้คิว heroฝ่ายตรงข้ามก็จะดีมากคือฟาร์ม หรือเก็บเงินได้ไวขึ้นนั้นเอง ก็แล้วแต่จังหวะ เหมือนพวก VI ในตลาดหุ้นถ้าได้ทีก็อาจขายเพื่อทำกำไร หรือลดราคาต้นทุนหุ้น หาก VIมองว่าเหมาะสมกับการขาย คือราคามันขึ้นเว้อเกินไปก็ขายซะพอราคาลงก็เข้าซื้อใหม่ เหมือนตัว carry จะไม่ปะทะมั่วคือ ต้องประเมินให้ชัดว่าไม่ตาย หรือไม่เสียหายมากนักถึงจะเข้าปะทะ พูดง่ายๆ พวก VI เล่นง่ายสุด แต่ก็ไม่ทุกคนที่จะเล่น carry ได้เก่ง เช่นบางคนฟาร์มทั้งเกมส์ยังไม่เห็นเก่ง บางคนฟาร์มแปบเดียวก็ได้ของมากมาย อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิค ของแต่ละคน
พวกที่กึ่งๆ semi carry หรือพวก semi VI พวกนี้จะเข้าเก็บหุ้นเหมือน VI คือถือยาวแต่เวลาเข้าก็เข้าแบบเทคนิคคือดูกราฟและเข้าซื้อในราคาที่ถูกสุดพวกนี้ก็เหมือนพวก NVM, Moonrider และพวก semi ทั่วๆไปใน ดอทเอ ซึ่งพวกนี้จะได้ทั้งช่วงต้นเกมส์,กลางเกมส์,ท้ายเกมส์ ส่วนมากแนวนี้จะต้องใช้ความสามรถที่ไม่สูงเท่าสาย ganker หรือเดย์เทรด แต่ก็ไม่น่าเบื่อเท่าแนว VI นักลงทุนบางคนแบ่งพอร์ตเป็นเล่น VI 70 เปอร์เซ็นต์  และ ganker 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เร้าใจในการลงทุน แต่สำหรับตัวผมขอเลือก LATEหรือพวกตั้งหน้าตั้งตาฟาร์มเพราะผมยอมรับว่าผมไม่เก่งพอที่จะเสี่ยงในทุกๆ จังหวะ และผมก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงด้วยจริงไหม ผลตอบแทนก็เงินปันผล ไงสายนี้เน้นความอดทนซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าผ่านพ้นไปได้หรือใช้เวลาซักหน่อยผมเชื่อว่าน่าจะเก่งสุดในสายทั้งหมดที่กล่าวมา ใครชอบสายไหนยังไงก็ลองดูนะครับ
ใครที่เล่นเกมส์ หรือกิจกรรมอะไรลองค้นหา ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนปรับเปลี่ยนแนวคิดคนที่รู้จักนำสิ่งต่างๆมาเปรียบเทียบ และประยุกต์จะเป็นคนที่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ที่มาในหลายๆรูปแบบ เช่น ท่านอาจารย์ขงเบ้ง ในเรื่องสามก๊ก ท่านเก่งรอบรู้ทุกศาสตร์ การรบ การเมือง ภูมิศาสตร์ และอีกมากมาย แต่นี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ท่านสามารถนำความรู้ในหลายๆ แขนงมาประยุกต์ใช้และผสมผสาน จนแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยดี ศาสตร์การลงทุนก็เช่นกัน เราต้องหาความรู้ในหลายๆ แนวทางไม่จำเป็นต้องยึดหลักใดหลักหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกะ  ดอทเอ อิอิ โปรเค้าเล่นเป็นทุกตัวแหละสาดดด!!!!!

"คนขยัน ตั้งใจเรียนเพื่อเกรดเพื่อชื่อเสียง ตั้งใจทำงานเพื่อเงินเดือน เพื่อบริษัท"
"คนที่ชนะ คือคนที่ ประยุกต์ความคิด และผสมผสานความรู้ที่ได้อย่างชาญฉลาด"


เขียนโดย NUT-VI วัชระพงศ์



                 












วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

การลงทุนVSเกมส์วางแผนการรบ


               
                      ต้องขอย้อนเวลาไปซัก 10 กว่าปีที่ผ่านมา หลายๆคนคงรู้จักเกมส์แนววางแผนการรบ ที่เราเล่นๆ กันนั้นแหละครับ starcraft blood war, Ra1,Ra2,Ra3 และ warcraft 1,2,3 และอีกมากหมาย ผมอยากบอกหลายๆคนที่เคยผ่านช่วงนั้นมา ผมมีความรู้สึกว่า พวกเราเก่งมากๆในช่วงนั้น สมองนี้เข้าขั้นอัจฉริยะเลยก็ว่าได้ สมัยนั้นความมั่นใจนะเต็มร้อยในหัวนี้        กูเก่งสุดในห้อง ในกลุ่ม ในโลก ทุกเย็น ทุกเช้า เสาร์ อาทิตย์ พร้อมกันที่ร้าน ต้องบอกก่อนสมัยก่อนนี้ไม่มีระบบออนไลน์เด็กๆจะเล่นกันต้องนัดกันไปพร้อมๆ กันบางร้านมีเยอะก็ได้เล่นครบบางร้านเครื่องน้อยๆ เล่นไม่พอสมัยนั้นร้านอินเตอร์เน็ท จึงน้อยเพราะเน้นแต่ร้านใหญ่ๆ ที่สามารถตอบสนองความเกรียนของเหล่าเกรียนเทพยุคปี 40 ผมก็มาจากตรงนั้นแหละครับ เข้าประเด็นการเล่นแนววางแผนการรบสำหรับบางคนที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน เกมส์จะถูกแบ่งๆเป็น พวกๆ บางเกมส์ต่างคนต่างเล่น บางเกมส์ทีมละ 2 คน 3 คน เริ่มมามีรถสร้างบ้าน 1 คัน สร้างแหล่งพลังงานสร้าง รถเก็บเงิน พอเก็บเงินได้มากๆก็ซื้อกองกำลังบุกกัน จบเกมส์อีกฝ่ายราบ บางคนสร้างช้าเร็วแตกต่างกัน แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนครับ จึงมีคำพูดติดๆ ปากว่า ตัวเงินตัวทองโอ้ย ใจเย็นๆดิ animal กูรูสร้างฐานอยู่ขอ 15 นาทีบุกนะสนุกครับเวลานั้น และบทความนี้ผมจะพูดถึงเรื่องการลงทุน ว่ามันเกี่ยวอะไรกะเกมส์เนี้ย และทำไมเราต้องย้อนไปตอนเด็กๆ มันไร้สาระไปไหม อิอิ              
               ครับ !!! ชีวิตคนเรานี้แหละเหมือนเกมส์ที่สุด เราเคยคิดไหมว่าชีวิตที่ร่ำรวยเงินทองเค้าทำยังไง ง่ายๆไอ้animal ใครๆก็รู้อ่ะ ก็แค่ตอนเด็กก็อ่าน ก ถึง ฮ พอประถมก็ติวสอบมัธยมโรงเรียนดังๆ พอจบมัธยมก็เลือกคณะหล่อ วิศวะ หมอ ไรประมาณเนี้ย ได้เงินเยอะดีชอบว่ะ พอเรียนมหาลัยก็ขอเงินแม่ไปนั่งเล่นเกมส์ ถึงเช้า ดอทเอ สนุกสนาน พอแม่ถามก็บอกว่าตังค์หมดทำรายงาน พอเรียนจบก็อยากได้บ้าน อยากแต่งงาน อยากมีรถ เบื่อเจ้านายก็บอกแม่ บอกพ่อขอลาออก พ่อ กับแม่ก็วิ่งเต้นฝากงานที่ดีๆ พอมีเงินก็หา ทำบัตรเครดิต ใช้จ่ายเกินตัว กู้เงิน มีลูกก็ส่งลูกไปเรียน บอกได้คำเดียวครับ วัฎจักรเดิมๆ
               วนมาที่เกมส์ผมยกตัวอย่างเกมส์ RAภาค2 สูตรนิวเคลียร์ oxoox สี่เหลี่ยม บอกได้คำเดียว playstation1 สูตรนี้ชนะคอมไวสุด จ๊าก!!! ครับ เราลองคิดดูซิครับต้นเกมส์ RA นี้เราต้องทำไรมั้งคุณเคยนึกย้อนใครตอบได้บ้างครับ !!! ก็สร้างฐานแร่เก็บเงินซิไอ้ วัว  ครับถูกต้องสร้างฐานเก็บเงิน พอมีรถแร่ 1 คัน ก็สร้างรถแร่เป็น2คัน พอได้เงินก็สร้างเป็น 4 คัน พอได้เงินก็สร้างโรงทหาร พอมาถึงจุดหนึ่ง มีโรงรถถังสร้างไรต่อดีใครตอบได้ !!! โถ่ไม่น่าถาม ไหนนายบอกเคยเล่นไงก็สร้างรถแร่มาอีกสัก 3-4 คันไงถามได้  แล้วสร้างมาทำไมครับเยอะจัง ถามครั้งสุดท้าย !!! นายวัวป่าว ก็เงิน ซิเงินๆๆๆๆ ไม่มีเงินนายจะชนะไงว่ะ จะเอาแร่ที่ไหนมาปั้มกองทัพ จบครับสรุป 555 เงินๆๆ ที่เราชาบู
               ครับพอผ่านช่วงเวลามาเรียนจบครับ ทำงานได้เงินเดือนสิ้นเดือนจ่ายค่าห้อง ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำมันรถ ค่าโทรศัพท์ ถามว่ามีเงินเก็บไหม ชีวิตคุณตอนนี้เหมือนมีรถแร่ 1 คัน  รถแร่เปรียบเสมือนตัวคุณวิ่งเก็บแร่อยู่คันเดียว เพื่อเอาเงินมาสร้างทหาร วิ่ง 10 รอบได้รถถัง 1 คัน เหนื่อยครับโดยที่ซื้อรถถังมาแล้วไม่รู้จะบุกใครก็มันมีคันเดียวจอดทิ้งไว้ที่ฐาน หาไปเรื่อยๆ ครับจนรถแร่คุณตายห่าไปพร้อมๆกัน
               หากเรารู้จักใช้เงิน ตัวอย่างเริ่มจากตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเช่นรถถังยังไม่รีบอย่าเพิ่งซื้อ เอาไปซื้อรถแร่เพิ่ม รถแร่แทนหน่วยของการหาเงินมีไรบ้างที่ก่อให้เกิดรายได้ ซื้อหุ้นที่มีปันผลสม่ำเสมอ ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ฝากเงินกินดอกเบี้ย นำเงินไปลงทุนธุรกิจเล็กๆกับเพื่อน งานประจำก็ยังทำอยู่เพราะเป็นรายได้หลักๆ เมื่อเราลงทุนไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนมีรถแร่ช่วยวิ่งเก็บเงินพอถึง จุดๆหนึ่งที่เราต้องการความมั่นคงเช่น รถถัง ทหาร ทันย่า ก็สร้างมาเถอะครับ เปรียบเสมือน แต่งงาน ซื้อรถ ซื้อบ้าน ผมกำลังจะบอกว่าทุกคนควรเริ่มเพิ่มหน่วยหาเงินให้มากกว่าการใช้จ่าย แนวคิดง่ายๆจากเกมส์ที่ผมคิดได้ตอน ป.5 .6 และมาปรับใช้
              
ง่ายๆ คือ คนรวยใช้เงินทำงานให้หนักกว่าตัวเอง คนจนทำงานหนักเพื่อให้ได้เงิน  
ผู้ชนะในเกมส์ RA คือผู้ที่สร้างรถแร่เก็บเงินได้ไว และบุกได้ไวกว่าฝ่ายตรงข้าม


วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

ทำไมคนรวย..มากกว่าคนจน T_T อยากรวยวะ

          
          เพราะความคิดของคนรวย แตกต่างจากคนจน คงปฎิเสธไม่ได้ว่า ทุกคนไม่มีใครไม่อยากรวยเงินทอง ถึงมีก็มีน้อยเพราะมนุษย์โลกล้วนมีความโลภอยู่ในตัว อยากได้นู้นอยากได้นี้ เห็นคนนั้น คนนี้มีไรก็อยากมีตาม แต่เมื่อมองที่รายได้ที่ตัวเองมีก็ไม่สามารถจะตอบสนองความต้องการได้ จึงเกิดการผ่อนจ่าย เสียดอกแพงๆ อยากมีบ้านมีรถขับสวยหรู และหาเงินผ่อนเดือนชนเดือน ความรวยจึงยากที่จะเกิดกับคนส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่หาเงินเพื่อจะตอบสนองความต้องการ เช่น มือถือใหม่ รถใหม่ บ้านใหม่ คนส่วนใหญ่จึงเหนื่อยจากการหาเงินเพื่อสิ่งเหล่านี้ คนบางกลุ่มใช้เงินอย่างรอบครอบคิดอย่างถี่ถ้วน ใช้เงินลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทน ยกตัวอย่างผมรู้จักลูกค้าผมคนหนึ่ง แกเปิดร้านขายของเล็กๆในตลาด ทุกวันแกจะซื้อกับข้าวถุงมากินที่บ้าน ข้าวแกจะหุงเองทุกวัน เสื้อผ้าชุดเดิมๆ มือถือมีเครื่องเก่าๆ ใช้จนพังแล้วเปลี่ยน แต่พอได้คุยก็ทราบถึงแนวคิดว่า เงินทุกบาทสามารถนำมาบริหารเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มากกว่า รายได้ที่แกได้หมดกับการขยายกิจการ ซื้อรถสิบล้อ  ทุกวันนี้แกยังขายของหน้าร้าน โดยมีรายได้ และเงินหมุนเวียนปีละ 2-3พันล้านบาท ไม่แปลกใจที่ผมเริ่มเปลี่ยนความคิด ผมเริ่มมาพิจารณาแล้วว่าอะไรในชีวิตประจำวันที่ผมไม่จำเป็นต้องซื้อ แต่ผมซื้อมันทุกๆๆเดือน ยกตัวอย่าง เหล้า เบียร์ บุหรี่ ผมหมดเงินกับพวกมันเดือนละ 4-5 พันบาท การรู้จักตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อลดรายจ่าย หันมาที่รายได้ ทุกๆคนคงทราบดีส่วนใหญ่ชีวิดคือไร เรียน เรียน เรียน และก็ทำงานหาเงิน บางคนเลือกมากอีก งานหนักเปลี่ยนงาน เบื่อเจ้านายเปลี่ยนงาน เบื่องานเดิมๆ บางคนทำๆๆ ทำเหมือนหุ่นยนต์เพื่อหาเงินใช้จ่าย ค่าบ้าน ค่ารถ สุดท้ายแล้วเราจะเป็นคนธรรมดาปกติคือมีเท่านี้ พอมีลูกส่งลูกเรียน พอลูกโตก็ทำงาน ส่งหลานเรียน เป็นต้น ใครที่เก็บเงินมากกว่าก็จะได้เปรียบในท้ายของช่วงชีวิต เพราะเหตุใดเราต้องเหนื่อยขนาดนี้
 รายได้     การอยากรวย นั้นจากความคิดของผม ผมคิดว่าเราต้องเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวเราว่ารายได้เราคืออะไร เช่นทำงาน เงินเดือน โบนัส เท่าไรต่อเดือน หรือต่อปี มีหนทางไหนบ้างที่สามารถสร้างรายได้คำว่ารายได้มันเกิดอยู่ทุกที่ครับ เอาล่าสุดผมมาทำงานที่ต่างจังหวัดไปพักโรงแรมแห่งหนึ่งหลังจากที่เหนื่อยจากการเดินทางผมไปพักที่หน้าโรงแรม มองไปเจอแม่บ้าน กำลังเก็บขวดน้ำ

  nut : ป้าขวดน้ำนี้ป้าไม่ทิ้งเหรอครับเห็นเก็บรวมๆ
  ป้า : ออ! เก็บไปขายนะ ทุกๆวันจะมีคนมาพักจะทิ้งขวดน้ำไว้เยอะแยะเลยจ้า
  nut  : แล้วเอาไปขายที่ไหน โหจะได้ซักเท่าไรอ่ะป้า ถึง2ร้อยบาทป่าว
  ป้า  : ออทุกเดือนจะมีคนมาเอา2ร้อยเหรอ ถึงซิ ถ้าเก็บเยอะก็ได้เยอะนะ

                    ที่ผมเล่าไม่ใช่ผมจะบอกให้ทุกคนไปเดินเก็บขยะหรอก เพราะคนรวยส่วนใหญ่ไม่เดินเก็บขยะ เหอะๆ แต่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามสิ่งเล็กๆ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าโอกาส หรือช่องทางหาเงิน คล้ายๆ ชื่อหนังว่ะ เอิ๊กๆ นี้คือรายได้ ทุกวันนี้ผมดื่มน้ำหมดขวดจะเก็บใส่ถุงรวมๆๆ ไว้หลังห้อง รอเอาไปขาย ได้ตังค์ ด้วย คำพูดที่เคยได้ยินมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ เพิ่งเข้าใจ "อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา "  มันถูกต้องเลยครับ 

รายจ่ายคงหนีไม่พ้นคำนี้ใช่ไหมครับ โอ้ยยยยใครๆก็ไม่อยากมีรายจ่ายทั้งนั้นแหละ กำแล้วจะพูดทำห่าไรครับ ถึงหลายๆ คนจะไม่อยากมีรายจ่ายแต่เคยสำรวจไหมรายจ่ายมันมาได้ไงคุณเคยงงไหมทำไมเงินเดือนเข้ามา มันหายไปไว้จัง คำตอบคือ รายจ่ายมีอยู่รอบตัวเรานี้ คุณลองคิดดูรถสวยคันหรูของคุณ โครตจะมีรายจ่ายมากมาย ค่าล้างรถ ค่าน้ำมัน ค่าผ่อนรถ ตรวจสภาพรถยนต์ ค่าซ่อม ค่าประกัน ดอกเบี้ยจากการผ่อนรถ โครตจะเยอะแยะ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าจะให้ทุกคนเดินเท้านะ ยิ่งรัฐบาลปูให้รถคันแรกลดภาษีคนวัยทำงานก็ตาลุกวาวอยากเปลี่ยนรถคันหรูไป รับหนูๆ กันแล้วซิ สำหรับผมโครตจะไร้ประโยชน์ การเดินทางถือเป็นปัจจัยหลักๆในชีวิตประจำวันเราไม่สามารจะหลีกเลี่ยงได้เลยรายจ่ายเรื่องรถ แต่เราสามารถลดรายจ่ายจากการ เลือกรถให้เหมาะสมกับรายได้ และฐานะของตัวเอง การบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องลดเรื่องของการซ่อมบำรุง ลดความประมาทลงเสีย หลีกเลี่ยงรายจ่ายที่อาจเกิดจากอุบัติเหุต บ้าน คงหนีไม่พ้น ค่าเช่า หรือการผ่อนบ้านแนะนำถ้าผ่อนจะดีมาก เพราะบ้านคือสิ่งเดียวที่มนุษย์ค่อนข้างให้ความสำคัญ ควรเลือกบ้านที่เหมาะสมกับตัวเรา ไม่ใหญ่จนเกินสมาชิกภายในบ้าน เลือกทำเลที่เหมาะสม รายจ่ายจิปาถะ ค่าโทรศัพท์ ค่าเน็ท ค่าบริการต่างๆ ค่าสมาชิกต่างๆ เป็นต้น หากทุกคนใส่ใจสำรวจและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ได้ ผมเชื่อว่าจะสามรถมีเงินเก็บ 

ออม  ออ-ออ-มอ อ่านว่าออม โครตจะง่ายเลยว่ะแค่หามามากใช้ไปน้อยๆ ก็ออมได้เยอะ การออมฟังเหมือนง่ายแต่จริงๆ คุณคิดไหมว่ามันก็ยากนะที่จะไม่ใช้เงินตรงนี้ คุณหักห้ามใจได้มากแค่ไหน ตอนเด็กๆผมเคยมีกระปุกออมสิน หยอดทุกวัน แต่ก็งัดมันทุกวันไปซื้อขนมประปุกผมมีร่องรอยการงัดเต็มไปหมดเลย อิอิ ไปซื้อของเล่นบ้าง เลี้ยงขนมสาวๆ เด็กแถวบ้านรถลูกชิ้นมาวิ่งไปที เกือบซื้อไม่ทันเพราะกว่าจะแคะกระปุกออมสินได้ เรื่องนี้ก็ถือว่า อยู่ที่วินัยของแต่ละคน 

ส่วนการลงทุน ผมจะเขียนในบทความต่อไป

ผู้เขียน Nut-Vi วัชระพงศ์

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

ฮกหลงมังกร หลับใหล

                  
                กุนซือผู้ซื่อสัตย์ สุดยอด CEO ของจ๊กก๊ก มีนามว่า จูกัดเหลียง บุคคลสุดท้ายซึ่งมากความสามารถ และพลิกชะตาชีวิตของเล่าปี่จากไม่มีอะไรจนสร้างเนื้อสร้างตัว ด้วยสติปัญญา ที่เฉียบแหลม บวกกับความคิดที่ สุขุม รอบคอบ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และความซื่อสัตย์ คำถามมีอยู่ว่าแล้วทำไม จูกัดเหลียงจึงมาอยู่กับ เล่าปี่ บุคคลผู้มาจากมือเปล่า และต่อกรกับโจโฉผู้มีอำนาจมาก แทนที่จะไปขอโจโฉทำงานด้วยคงรุ่งกว่าอยู่กับเล่าปี่
               จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง มีพี่น้อง 3 คน  บิดามารดาเสียชีวิต ตั้งแต่ยังเด็กต้องอยู่กับอา คือจูกัดเสียนผู้เป็นอา ต้องร่อนเร่ เพราะไฟสงคราม หนีไปพึ่งใบบุญ เล่าเปียว ที่เมืองเกงจิ๋ว สมัยนั้น เมืองเกงจิ๋ว สงบมากต่างจากเมืองอื่นเนื่องจากเล่าเปียวเลือกเดินสายกลาง ไม่อยู่ฝ่ายใด เมืองเกงจิ๋วจึงสงบ และเป็นที่อาศัยของเหล่านักปราชญ์ มาหาความสงบ และสมัยนั้น สุมาเต็กโชเป็นนักปราชญ์เลื่องชื่อ ได้ถูกเชื่อเชิญให้มาเปิด สำนักถ่ายทอดวิชาความรู้ สมัยนี้คงคล้ายๆ อ.อุ๊ สอนเคมี ดังๆ ไรประมาณนี้ อ.สุมาเต็กโชว์ได้ฉายาว่า คันฉ่องวารี ประมาณว่าดูคนออก ดูคนละเห็นแววได้เห็นเด็กเพียง  2 คน คือ ด..ขงเบ้ง กับ ด.. บังทอง ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และกล้าคิดกล้าทำ สุมาเต็กโชจึงถ่ายทอดความรู้ ทั้งหมดที่ตนมีให้ขงเบ้ง พูดง่ายๆ เรียนทุกคอร์ส ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แต่ตอนนั้นมันไม่มี ยังไม่พอยังผลักดันให้ไปศึกษาต่อกับ เฟิงจิ่ว ซึ่งเชียวชาญทางด้านตำราพิชัยยุทธ์ การทหาร และแนวคิดสำนักต่างๆ ทั้งขงจื้อ เล่าจื้อ และอื่นๆขงเบ้งได้ศึกษากับ เฟิ่งจิ่วถึง ปีครึ่ง จากที่ได้อ่านมา การศึกษาของขงเบ้งจะเป็น เน้นความเข้าใจมากกว่าการท่องจำ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง และขงเบ้งสมัยเด็กๆจะศึกษาหลายๆ แขนง ซึ่งแตกต่างจากเด็กคนอื่น ที่ศึกษาด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว ซึ่งไม่แปลกใจเลยที่ขงเบ้งมีความรู้มากมายหลายแขนง
               ต่อมาขงเบ้งได้รู้จัก บังเต๊กก๋ง เป็นผู้อาวุโสในเมืองเกงจิ๋ว และเป็นญาติผู้ใหญ่ของ บังทอง บังเต๊กก๋งเป็นผู้มีความสามารถมากๆ แต่ปฏิเสธการรับราชการ ขงเบ้งสมัยนั้นเป็นเด็กยากจน พูดง่ายๆถ้าเป็นสมัยนี้ก็เด็กที่ไม่มีเงินเรียนมหาลัยดีๆ ไม่มีรถเก๋งขับ เหรอไม่มีโทรศัพท์แพงๆแชท BB กับเพื่อน  เดินตามถนนทั่วไป ขงเบ้งเห็นว่า บังเต๊กก๋งมีความรู้มาก ที่สำคัญที่บ้านมีหนังสือเพียบเลย จึงไปรับใช้ มักนั่งคุกเข่า อย่างนอบน้อม บังเต๊กก๋งเห็นว่าเป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะ รู้กาลเทศะ จึงอนุญาตให้ขงเบ้งเข้ามาดูตำราได้เรื่อยๆ
               เมื่อายุได้ 16-17 ปีก็ไปลาเล่าเปียว ขอหนีไปอยู่บนเขากับน้อง 2 คน ที่หลงจง เชิงเขาโงลังตั๋ง บังเต๊กก๋งเห็นขงเบ้งเป็นคนที่เฉลี่ยวฉลาด อัจฉริยะไปเก็บตัวอยู่กับป่าเขาธรรมชาติ เปรียบเสมือนมังกรซ่อนกาย รอจังหวะเหมาะที่จะทะยานขึ้นสูงสู้ท้องฟ้า จึงตั้งฉายาว่า ฮกหลงแปลว่ามังกรหลับใหล
               เล่าปี่เมื่อพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายคราจึงได้คำแนะนำจากสุมาเต๊กโช ว่าหากท่าน จะคิดเป็นใหญ่ต้องไปหา 2 คนนี้ ฮกหลง และฮองซู นั้นก็คือ ขงเบ้ง และ บังทอง ภายหลัง ขงเบ้งได้มาเป็น CEO คนสุดท้ายเพียงอายุ 26 ปี เท่านั้น เพราะเล่าปี่ซื้อใจโดยไปหาถึง 3 ครั้ง เพื่อแสดงถึงความจริงใจ แต่นี้ไม่ใช่ประเด็นหลักของการมาของ ขงเบ้ง
               ขงเบ้งเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ขงเบ้งเห็นว่าการเลือก เจ้านาย  สำคัญกว่าเลือกบริษัท ดูได้จากการที่เค้าเลือกเล่าปี่ที่มีเพียงกองทหารเร่ร่อน ทั้งที่ชื่อเสียง เส้นสาย ในเกงจิ๋วสามารถทำงานกับ เล่าเปียวได้เลย หรือแม้กระทั้งไปสมัครงานกับโจโฉก็ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า (สมัยนี้ใครได้ทำงานกับโจโฉ พ่อแม่คงมีหน้ามีตา ภูมิใจในตัวลูก) ขงเบ้งเลือกเล่าปี่เพราะต้องการอยู่ในองค์กรที่เขาสามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ ส่วนเล่าเปียวก็ขาดสภาวะผู้นำ อ่อนแอไม่เด็ดขาด ส่วนโจโฉก็ตรงกันข้ามเผด็จการเอาแต่ใจ ทั้งสองคนต่างไม่ใช่เจ้านายที่ขงเบ้งสนใจ  ขงเบ้งเคยกล่าวไว้ว่าหากตนไม่ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ ขอไปปลูกผักอย่างเดิมดีกว่า ด้วยเหตุนี้เล่าปี่จึงเป็นนายที่ตรงตามเงื่อนไขของขงเบ้ง


วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

ออมเงินในหุ้น สู่ความมั่งคั่งร่ำรวย

บางคนถามว่าเล่นหุ้นแล้วจะรวยจิงไหม จะสังเกตเห็นว่าคนที่เล่นหุ้นแล้วมีเงินมากๆจะชอบมาชักชวน เหรอประกาศตัวเองว่ารวยจากการเล่นหุ้นเพียงไม่กี่เดือน ความจิงแล้วไม่มีหรอกครับที่จะเล่นหุ้นวันๆหนึ่งได้เงินเยอะมหาศาลถ้าจะมีก็เป็นรายใหญ่ๆ ระดับมีเงินหลายล้านบาท ส่วนพวกเราที่หัดเล่นหุ้นใหม่ๆก็เปรียบเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ คือพอเห็นเค้ารวยก็วิ่งเข้าไปซื้อ พอราคาลงก็ขายไม่ทันติดราคานั้นตัวแดง ทำให้เสียความรู้สึก และมีความคิดในด้านลบกับตลาดหุ้น จริงๆถ้าใครอยากเล่นหุ้นไม่ยากครับ จำไว้ 3 อย่าง อ่าน อ่าน แล้วก็อ่าน หนังสือหุ้นที่ เน้นการลงทุนแบบ Value Investor คือการลงทุนในคุณค่าของหุ้น เหรอในกิจการนั้นๆ ไม่ใช่เล่นหุ้นเพียงเพราะหวังเก็งกำไร เพียงอย่างเดียว และการเล่นหุ้นนั้นไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้าหน้าจอ ตลาด เลยครับ มีหลายคนแนะนำให้ผมซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆที่สามารถติดตามราคาหุ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และสามรถซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว ผมกลับมีความคิดว่าการเสียเงินซื้อเครื่องมือแบบนี้มาก็ถือว่า เล่นหุ้นอย่างไม่คิดแล้ว นอกเสียจากกรณี ที่เป็นนักลงทุนรายใหญ่จิง แต่สำหรับผม ไม่เหมาะหรอกครับ มันเปลืองคิดง่ายๆๆ นะครับ เราซื้อโทรศัพท์ที่สามารถดูหุ้นวิ่งได้มาเครื่องละ 2 หมื่นบาท มันมีประโยชน์แค่คุณเห็นหุ้นวิ่งขึ้นลง แต่ถ้าคุณไม่มีเงินก็จบ ใช้เวลา 2 ปี รุ่นใหม่ก็ออกมาละ คุณก็อยากเปลี่ยนรุ่น ต้องเสียเงินไปซ์้ออีกเครื่อง ซึ่งแพงกว่าแน่นอน เพียงเพื่อให้คนอื่นมองว่าคุณเล่นหุ้น น่าขำนะครับ แต่สำหรับผม เงิน 2 หมื่น เอาง่ายๆซ์้อหุ้น มูลค่า 10 บาท ได้ทั้งหมด 2000 หุ้น และหุ้นตัวนั้นจ่ายปันผลหุ้นละ 0.23  คุณจะได้เงินปันผล 460 บาท หุ้นบางตัวจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง เท่ากับ 1 ปี ได้เงินปันผล 920 บาท พอมีโอกาสก็เข้าซ์้อ เพิ่ม นี้ยังไม่รวมส่วนต่างหากราคาหุ้นปรับตัวสูง แต่เป็นผมถ้าหุ้นตัวนั้นดี และจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ ผมจะคิดซะว่ามันเป็นกิจการของผม ผมจะไม่ขายหรอก คุณสามารถเลือกกิจการได้เช่น pizza 7-11 bigC homepro cp ปตท และอื่นๆอีกมากมาย

การที่จะร่ำรวยนั้น มี4อย่าง รายรับ รายจ่าย เก็บออม ลงทุน
1.รายรับ สามารถได้จากงานประจำ รายได้เสริม เงินปันผลที่ได้จากข้อ 4
2.ใช้จ่ายอย่างประหยัด คิดก่อนใช้
3.เหลือจากการใช้จ่ายก็เหลือมาออม
4.นำเงินที่ออมไปลงทุน หากเราไม่ลงทุนเงินก็จะนิ่ง เงินนะครับไม่ใช่ สิ่งมีชิวิจมันจะได้ออกลูกเองได้ คุณต้องพามันไปที่ ที่มันเพิ่มปริมาณได้นั้นคือ ตลาดหุ้น ธนาคาร ก็แล้วแต่คุณว่าคุณชอบแบบไหน

คนที่หวังรวยในตลาดหุ้นภายในช่วงข้ามคืนนั้นมีมากมาย แต่สุดท้ายก็หายไปเหลือแต่คนที่มีสติปัญญาและใจเย็น ส่วนตัวผมเห็นตลาดหุ้นเป็นแค่เกมส์ๆ หนึ่งที่ไม่ต้องไปเครียดกับมันเพราะ เงินที่ผมได้ส่วนใหญ่มาจากงานประจำไม่ใช่มาจากตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเป็นแค่เกมส์สนุกๆเท่านั้นครับ ^^

ทำไมต้องเล่นหุ้นด้วยไม่เข้าใจจริงๆ

หุ้น คืออะไร ไม่รู้แต่ที่รู้ๆ มันสามารถสร้างรายได้จากการลงทุน นั้นหมายความว่าหากคุณมีเงินคุณก็สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของกิจการนั้นๆได้ แต่ไม่ใช่หุ้นทุกตัวจะสามารถสร้างรายได้บางตัวก็ไม่สามารถจ่ายปันผลได้ ดังนั้นการลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาข้อมูล บางคนมองการเล่นหุ้นเหมือนการพนันสามารถรวยได้ภายในไม่กี่นาที คนเล่นหุ้นต้องมีเงิน คนเล่นหุ้นต้องแต่งตัวดี แต่สำหรับผมการเล่นหุ้น เหมือนการทำสวนผักผลไม้ เลี้ยงสัตว์ ไม่ต้องแต่งตัวดี มีเงินจากการออมพอสมควร คุณสามรถเริ่มต้นที่ 5 พันบาท แต่การเล่นหุ้นแต่ละครั้งจะคิดค่าคอมมิสชั่นเสมอ แต่ก็ไม่เท่าไร 50 บาทขั้นต่ำต่อวันเท่านั้น แต่ถ้าเกิน 2 หมื่นบาทจะคิดค่าคอมตามอัตราที่กำหนด เท่านั้น ถ้าคุณมองการเล่นหุ้น เหมือนการทำผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์ คุณจะมีความสุข คือง่ายๆเลย ถ้าคุณคิดจะรวยไวๆจากหุ้น คุณจะหมดตัว ถ้าคุณคิดจะรวยแต่ช้าๆค่อยเป็นค่อยไปคุณจะรวยอย่างยั่งยืน ที่ผมบอกว่ามันเหมือนกับการทำการเกษตร คุณลองจินตนาการตามซิหากคุณมีเงิน 5 พัน ถึงจะไม่มากหากคุณไปซ์้อไก่มาเลี้ยงซัก  5 ตัว ไปซ์้อเมล็ดพันธุ์มาปลูก พอไก่ออกไข่คุณก็แบ่งไว้กิน หรือคุณจะเก็บไข่ไปขายได้ฟองละ 1 บาท เก็บเงินได้พอสมควรคุณก็ไปซ์้อไก่มาเพิ่มครับ ถ้าเป็นหุ้น คุณไปซื้อไก่ซักตัวก็เหมือนคุณไปซื้อ หุ้นซักตัว เช่น CPF ยกตัวอย่างครับ ผมจะไม่พูดถึงเทคนิคการเข้าซื้อนะครับลองไปศึกษาเอง แต่ถ้าคุณพร้อมจะซือในราคานั้นก็ซื้อมา ถ้าคิดว่า ok ไม่แพงจนเกิน หากคุณซื้อมาครับ มี 2 อย่างเท่านั้น ไม่ขาย ก็ กินปันผล ขายนั้นก็คือการเก็งกำไรจากราคาที่ซื้อมา เช่นซื้อมา 31 ขาย 31.60 ส่วนปันผลก็เหมือนการเลี้ยงไว้กินไข่ หุ้นก็เหมือนสัตว์ปีกทุกประเภทแหละ มีไข่บ้างไม่มีบ้าง ไข่บางฟองแพง บางฟองถูก ก็แล้วแต่ แต่ละคนจะเลือกไก่ เหรอหุ้นมาเก็บไว้ในพอร์ตของคุณ แต่สำหรับผม ราคาไก่ เหรอหุ้นจะวิ่งขึ้นวิ่งลงผมไม่เคยตกใจกลัวเลย เพราะผมคิดว่าไก่ทุกตัวของผมมันสามารถให้ไข่ได้ต่อเนื่องผมจะไม่ขายไก่ผมเพื่อแลกกับเงินที่ไม่รู้จะไปลงทุนอะไรต่อ เช่นเดียวกับผลไม้ ผลของมันก็คือเงินปันผล ต้นมันก็คือ หุ้น บางต้นให้ผล เยอะ แต่ราคาถูก บางต้นให้ผลน้อยแต่ราคาแพงก็แล้วแต่ต้น การซื้อหุ้นก็เหมือนการปลูกต้นไม้เลี้ยงสัตว์ควร เลือกพันธุ์ของมัน และศึกษาพันธุ์ของมันให้ดีก่อนจะซื้อมาปลูก ข้อดีของหุ้น คือมันไม่มีชีวิต มันไม่ต้องการน้ำ อาหาร เหรอ เป็นโรค มันง่าย ทุกวันนี้ผมนั่งดูหุ้นที่ผมซื้อ ก็เปรียบกับ นั่งดูฟาร์มเล็กๆ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์