วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

ทำไมคนรวย..มากกว่าคนจน T_T อยากรวยวะ

          
          เพราะความคิดของคนรวย แตกต่างจากคนจน คงปฎิเสธไม่ได้ว่า ทุกคนไม่มีใครไม่อยากรวยเงินทอง ถึงมีก็มีน้อยเพราะมนุษย์โลกล้วนมีความโลภอยู่ในตัว อยากได้นู้นอยากได้นี้ เห็นคนนั้น คนนี้มีไรก็อยากมีตาม แต่เมื่อมองที่รายได้ที่ตัวเองมีก็ไม่สามารถจะตอบสนองความต้องการได้ จึงเกิดการผ่อนจ่าย เสียดอกแพงๆ อยากมีบ้านมีรถขับสวยหรู และหาเงินผ่อนเดือนชนเดือน ความรวยจึงยากที่จะเกิดกับคนส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่หาเงินเพื่อจะตอบสนองความต้องการ เช่น มือถือใหม่ รถใหม่ บ้านใหม่ คนส่วนใหญ่จึงเหนื่อยจากการหาเงินเพื่อสิ่งเหล่านี้ คนบางกลุ่มใช้เงินอย่างรอบครอบคิดอย่างถี่ถ้วน ใช้เงินลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทน ยกตัวอย่างผมรู้จักลูกค้าผมคนหนึ่ง แกเปิดร้านขายของเล็กๆในตลาด ทุกวันแกจะซื้อกับข้าวถุงมากินที่บ้าน ข้าวแกจะหุงเองทุกวัน เสื้อผ้าชุดเดิมๆ มือถือมีเครื่องเก่าๆ ใช้จนพังแล้วเปลี่ยน แต่พอได้คุยก็ทราบถึงแนวคิดว่า เงินทุกบาทสามารถนำมาบริหารเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มากกว่า รายได้ที่แกได้หมดกับการขยายกิจการ ซื้อรถสิบล้อ  ทุกวันนี้แกยังขายของหน้าร้าน โดยมีรายได้ และเงินหมุนเวียนปีละ 2-3พันล้านบาท ไม่แปลกใจที่ผมเริ่มเปลี่ยนความคิด ผมเริ่มมาพิจารณาแล้วว่าอะไรในชีวิตประจำวันที่ผมไม่จำเป็นต้องซื้อ แต่ผมซื้อมันทุกๆๆเดือน ยกตัวอย่าง เหล้า เบียร์ บุหรี่ ผมหมดเงินกับพวกมันเดือนละ 4-5 พันบาท การรู้จักตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อลดรายจ่าย หันมาที่รายได้ ทุกๆคนคงทราบดีส่วนใหญ่ชีวิดคือไร เรียน เรียน เรียน และก็ทำงานหาเงิน บางคนเลือกมากอีก งานหนักเปลี่ยนงาน เบื่อเจ้านายเปลี่ยนงาน เบื่องานเดิมๆ บางคนทำๆๆ ทำเหมือนหุ่นยนต์เพื่อหาเงินใช้จ่าย ค่าบ้าน ค่ารถ สุดท้ายแล้วเราจะเป็นคนธรรมดาปกติคือมีเท่านี้ พอมีลูกส่งลูกเรียน พอลูกโตก็ทำงาน ส่งหลานเรียน เป็นต้น ใครที่เก็บเงินมากกว่าก็จะได้เปรียบในท้ายของช่วงชีวิต เพราะเหตุใดเราต้องเหนื่อยขนาดนี้
 รายได้     การอยากรวย นั้นจากความคิดของผม ผมคิดว่าเราต้องเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวเราว่ารายได้เราคืออะไร เช่นทำงาน เงินเดือน โบนัส เท่าไรต่อเดือน หรือต่อปี มีหนทางไหนบ้างที่สามารถสร้างรายได้คำว่ารายได้มันเกิดอยู่ทุกที่ครับ เอาล่าสุดผมมาทำงานที่ต่างจังหวัดไปพักโรงแรมแห่งหนึ่งหลังจากที่เหนื่อยจากการเดินทางผมไปพักที่หน้าโรงแรม มองไปเจอแม่บ้าน กำลังเก็บขวดน้ำ

  nut : ป้าขวดน้ำนี้ป้าไม่ทิ้งเหรอครับเห็นเก็บรวมๆ
  ป้า : ออ! เก็บไปขายนะ ทุกๆวันจะมีคนมาพักจะทิ้งขวดน้ำไว้เยอะแยะเลยจ้า
  nut  : แล้วเอาไปขายที่ไหน โหจะได้ซักเท่าไรอ่ะป้า ถึง2ร้อยบาทป่าว
  ป้า  : ออทุกเดือนจะมีคนมาเอา2ร้อยเหรอ ถึงซิ ถ้าเก็บเยอะก็ได้เยอะนะ

                    ที่ผมเล่าไม่ใช่ผมจะบอกให้ทุกคนไปเดินเก็บขยะหรอก เพราะคนรวยส่วนใหญ่ไม่เดินเก็บขยะ เหอะๆ แต่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามสิ่งเล็กๆ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าโอกาส หรือช่องทางหาเงิน คล้ายๆ ชื่อหนังว่ะ เอิ๊กๆ นี้คือรายได้ ทุกวันนี้ผมดื่มน้ำหมดขวดจะเก็บใส่ถุงรวมๆๆ ไว้หลังห้อง รอเอาไปขาย ได้ตังค์ ด้วย คำพูดที่เคยได้ยินมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ เพิ่งเข้าใจ "อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา "  มันถูกต้องเลยครับ 

รายจ่ายคงหนีไม่พ้นคำนี้ใช่ไหมครับ โอ้ยยยยใครๆก็ไม่อยากมีรายจ่ายทั้งนั้นแหละ กำแล้วจะพูดทำห่าไรครับ ถึงหลายๆ คนจะไม่อยากมีรายจ่ายแต่เคยสำรวจไหมรายจ่ายมันมาได้ไงคุณเคยงงไหมทำไมเงินเดือนเข้ามา มันหายไปไว้จัง คำตอบคือ รายจ่ายมีอยู่รอบตัวเรานี้ คุณลองคิดดูรถสวยคันหรูของคุณ โครตจะมีรายจ่ายมากมาย ค่าล้างรถ ค่าน้ำมัน ค่าผ่อนรถ ตรวจสภาพรถยนต์ ค่าซ่อม ค่าประกัน ดอกเบี้ยจากการผ่อนรถ โครตจะเยอะแยะ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าจะให้ทุกคนเดินเท้านะ ยิ่งรัฐบาลปูให้รถคันแรกลดภาษีคนวัยทำงานก็ตาลุกวาวอยากเปลี่ยนรถคันหรูไป รับหนูๆ กันแล้วซิ สำหรับผมโครตจะไร้ประโยชน์ การเดินทางถือเป็นปัจจัยหลักๆในชีวิตประจำวันเราไม่สามารจะหลีกเลี่ยงได้เลยรายจ่ายเรื่องรถ แต่เราสามารถลดรายจ่ายจากการ เลือกรถให้เหมาะสมกับรายได้ และฐานะของตัวเอง การบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องลดเรื่องของการซ่อมบำรุง ลดความประมาทลงเสีย หลีกเลี่ยงรายจ่ายที่อาจเกิดจากอุบัติเหุต บ้าน คงหนีไม่พ้น ค่าเช่า หรือการผ่อนบ้านแนะนำถ้าผ่อนจะดีมาก เพราะบ้านคือสิ่งเดียวที่มนุษย์ค่อนข้างให้ความสำคัญ ควรเลือกบ้านที่เหมาะสมกับตัวเรา ไม่ใหญ่จนเกินสมาชิกภายในบ้าน เลือกทำเลที่เหมาะสม รายจ่ายจิปาถะ ค่าโทรศัพท์ ค่าเน็ท ค่าบริการต่างๆ ค่าสมาชิกต่างๆ เป็นต้น หากทุกคนใส่ใจสำรวจและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ได้ ผมเชื่อว่าจะสามรถมีเงินเก็บ 

ออม  ออ-ออ-มอ อ่านว่าออม โครตจะง่ายเลยว่ะแค่หามามากใช้ไปน้อยๆ ก็ออมได้เยอะ การออมฟังเหมือนง่ายแต่จริงๆ คุณคิดไหมว่ามันก็ยากนะที่จะไม่ใช้เงินตรงนี้ คุณหักห้ามใจได้มากแค่ไหน ตอนเด็กๆผมเคยมีกระปุกออมสิน หยอดทุกวัน แต่ก็งัดมันทุกวันไปซื้อขนมประปุกผมมีร่องรอยการงัดเต็มไปหมดเลย อิอิ ไปซื้อของเล่นบ้าง เลี้ยงขนมสาวๆ เด็กแถวบ้านรถลูกชิ้นมาวิ่งไปที เกือบซื้อไม่ทันเพราะกว่าจะแคะกระปุกออมสินได้ เรื่องนี้ก็ถือว่า อยู่ที่วินัยของแต่ละคน 

ส่วนการลงทุน ผมจะเขียนในบทความต่อไป

ผู้เขียน Nut-Vi วัชระพงศ์

1 ความคิดเห็น:

  1. สนใจวางแผนทางการเงิน สร้างวินัยการออม พูดคุยกันครับ
    กัน 085-912-1204

    ตอบลบ